ทัวร์น่าน พะเยา เชียงราย ล่าสุดยอดทะเลหมอกดอยเสมอดาว ภูลังกา ภูชี้ฟ้า ผาตั้ง

05.30 อรุณสวัสดิ์ยามเช้า เรียกความสดชื่น รอชมทะเลหมอกแห่งแรก พร้อมแสงอาทิตย์ของเช้าวันใหม่ที่ดอยเสมอดาว อุทยานแห่งชาติศรีน่าน (โอกาสเห็น 50% ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ) เมื่อหมอกจางยังสามารถมองเห็นแม่น้ำน่านทอดตัวไหลผ่านหุบเขาเป็นแนวยาว พร้อมกับชมวิวทิวทัศน์ได้รอบทิศทาง

07.30 รับประทานอาหารเช้าเป็นข้าวต้มร้อน ๆ กลิ่นหอม ๆ ช่วยให้ร่างกายอบอุ่นขึ้นจากนั้นไปเก็บภาพ ผาชู้ ผาหินตั้งตระหง่านเย้ยท้องฟ้า สถานที่แห่งตำนานความรักสามเศร้าระหว่างเจ้าเอื้องผึ้ง เจ้าจันทร์ผา และเจ้าจ๋วง

08.30 ออกเดินทางกันต่อ เพื่อเข้าตัวเมืองน่าน เมืองเล็กๆ อันสงบเงียบกับสถานที่ที่แฝงไว้ด้วยศิลปะวัฒนธรรมอันสวยงาม

10.00 แวะสักการะพระธาตุประจำปีเถาะที่ “วัดพระธาตุแช่แห้ง” สร้างในสมัยพระยาการเมือง องค์พระธาตุเป็นเจดีย์ทรงระฆังเป็นสีทองสุกปลั่ง ได้รับอิทธิพลมาจากพระธาตุหริภุญไชย

ต่อด้วยการเดินเที่ยวตัวเมืองน่าน ในแต่ละจุดสามารถเดินถึงกันได้ ไม่ไกลมากค่ะ

เริ่มกันที่ “วัดภูมินทร์” สร้างขึ้นโดย เจ้าเจตบุตรพรหมมินทร์ พระอุโบสถและพระวิหารถูกออกแบบให้เป็นอาคารจัตุรมุขอยู่ในหลังเดียวกันชมภาพจิตรกรรมบอกรักบนฝาผนังอันลือลั่น คือภาพ “ปู่ม่านย่าม่าน”เป็นภาพหญิงชายชาวไทลื้อ ที่กำลังกระซิบคุยกัน รวมไปถึงภาพที่แสดงถึงวิถีชีวิตและวัฒนธรรมอันงดงามของชาวเมืองน่านเมื่อครั้งโบราณกาล

จากนั้นเดินข้ามถนนมาฝั่งตรงข้าม เพื่อเข้าชม “พิพิธภัณฑ์เมืองน่าน” หรือหอคำ คุ้มเดิมของเจ้าผู้ครองเมืองน่าน ชมวิถีชีวิตช้าวล้านนา และประวัติศาสตร์เมืองน่านผ่านเครื่องมือเครื่องใช้ในชีวิตประจำวัน ผ้าพื้นเมือง และโบราณวัตถุชนิดต่างๆ และเก็บภาพซุ้มต้นลีลาวดี Unseenแห่งเมืองน่านที่เราต้องไป Check in

จากนั้นเดินไป “วัดพระธาตุช้างค้ำ” สร้างขึ้นโดย พญาภูเข่ง ได้รับอิทธิพลศิลปะแบบสุโขทัย มีปูนปั้นช้างครึ่งตัวสร้างค้ำองค์พระเจดีย์สีเหลืองทองอร่าม ภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ พร้อมสักการะองค์พระพุทธนันทบุรีศรีศากยมุนี

12.00 พักรับประทานอาหารกลางวันสุดอร่อยกันที่ร้านเฮือนฮอม หรือระดับเทียบเท่า

13.00 เราจะเดินทางไปยังจังหวัดพะเยา เส้นทางค่อนข้างคดเคี้ยว และระยะทางยังอีกยาวไกล

17.00 เดินทางถึงที่พัก นำสัมภาระเข้าเก็บห้องพัก พักผ่อนตามอัธยาศัย หรือจะเก็บภาพบรรยากาศสวยๆยามเย็นบริเวณรีสอร์ทก็ได้ค่ะ

18.30 รับประทานอาหารเย็นที่บ้านพัก

****คืนนี้เราจะพักกันที่ ภูลังการีสอร์ท หรือระดับเทียบเท่า พักห้องละ 2-4 ท่าน

05.00 วันนี้เราตื่นกันแต่เช้ามืดสูดรับอากาศบริสุทธิ์ รอชมทะเลหมอกหยอกล้อเล่นกับแสงพระอาทิตย์ที่ภูลังการีสอร์ท (เรามีโอกาสเห็นทะเลหมอก75% ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ)

08.00 รับประทานอาหารเช้าที่รีสอร์ท อาบน้ำชำระล้างร่างกาย เก็บสัมภาระและเดินทางกันต่อเลยจ้า

11.00 เที่ยวชมวัดคู่บ้านคู่เมืองของชาวเชียงคำ ที่วัดพระนั่งดิน วัดแห่งนี้เป็นที่เคารพศรัทธาของช้าวบ้านเป็นอย่างมาก มีตำนานเรื่องเล่าขององค์พระประธานที่ไม่ว่ายุคหรือสมัยใด เมื่อชาวบ้านพยายามอัญเชิญองค์พระเพื่อประดิษฐานบนฐานชุกชี แต่ก็ไม่สามารถยกองค์ท่านขึ้นได้ จึงเป็นที่เรียกขานนามว่า  พระนั่งดิน  และตามตำนานยังกล่าวไว้อีกว่าเป็นพระพุทธรูปองค์เดียวในโลกที่สร้างโดพระพุทธเจ้า

12.00 รับประทานอาหารกลางวันที่ิครัวสิบสองปันนา หรือระดับเทียบเท่า

14.00 แวะสัมผัสละอองน้ำที่สาดกระเซ็นมาจาก น้ำตกภูซาง น้ำตกชั้นเดียวที่อยู่ติดริมถนน เดินไม่ไกลหามุมสวยๆ พร้อมเก็บรูปงามยามบ่าย

14.30 เดินทางกันต่อ จุดหมายต่อไปของเราในวันนี้ก็คือ ภูชี้ฟ้า

16.00 เข้าที่พัก เก็บสัมภาระยืดเส้นยืดสาย

16.30 ยามบ่ายคล้อยได้เวลาขึ้นยอดภูชี้ฟ้า เพื่อไปรอชมแสงอาทิตย์ลาลับขอบฟ้า ซึ่งต้องนั่งรถกระบะขึ้นไป และเดิน 700 เมตร ไม่ไกลเลยค่ะ หากเทียบกับความสวยงามที่กำลังจะเข้ามาทักทายเราเบื้องหน้าที่มาของชื่อภูชี้ฟ้า มาจากบริเวณปลายสุดของหน้าผามีลักษณะแหลมคล้ายนิ้วกำลังชี้ยื่นออกไป

***การเดินขึ้นภูชี้ฟ้าราว 700 เมตร ขอให้ค่อย ๆ เดินไม่ต้องรีบ จะได้ไม่เหนื่อยเกินไป แต่ที่ผ่านมาคนทุกวัยไปได้ไม่ต้องห่วงจ้า แต่ช่วงเทศกาลคนจะเยอะหน่อย โดยผู้สูงวัยจะใช้เวลานานขึ้น แต่ท่านจะพบผู้สูงวัย ตลอดเส้นทางเป็นปกติ ซึ่งทุกคนก็ขึ้นไปได้ เมื่อไปถึง ให้ระมัดระวังอย่าไปถ่ายรูปเลยเขตห้ามถ่ายรูป เพราะอาจพลัดตกลงเขาไปได้ค่ะ

18.30 ลงมารับประทานอาหารเย็น เติมพลังกลับคืนสู่ร่างกาย

20.00 พักผ่อนนอนหลับเข้าสู่นิทรารมณ์กับอากาศหนาวๆ ภายใต้ผ้าห่มอุ่นๆ

**** คืนนี้เราจะพักกันที่ เฮือนดอกเสี้ยว  หรือภูชี้ฟ้าฮิลล์   หรือม่านฟ้าฮิลล์  หรือระดับเทียบเท่า   พักห้องละ 2-4 ท่าน

05.30 เช้านี้เราตืนเช้ากันอีกวันเพื่อไปรอ ชมพระอาทิตย์ขึ้นกับทะเลหมอกสีทองที่ภูชี้ฟ้าอีกครั้ง (โอกาสเห็นทะเลหมอกเกือบ 100% แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ หากเป็นช่วงเทศกาล เรียนตามตรงว่าจะมีพ่วงทะเลคนไปด้วยนะค่ะ *_*)

07.00 เดินทางลงมารับประทานอาหารเช้า พร้อมเก็บสัมภาระ และออกเดินทางไปชมทะเลหมอกแห่งสุดท้ายกันที่ ดอยผาตั้ง ซึ่งเป็นที่ตั้งของหมู่บ้านชาวจีนฮ่อ เย้า และม้ง โดยเฉพาะจีนฮ่อนั้น อดีตเคยเป็นส่วนหนึ่ง ของกองพล 93

09.00 เราจะตามรอยหนังดังเมื่อหลายปีก่อน เรื่อง “เพื่อนสนิท” ที่ ดอยผาตั้ง กันค่ะ ก่อนจะไปยังเส้นทางชมสายหมอก ก็แวะไปจุดชมวิวผาบ่อง หรือประตูสยามกันก่อนค่ะ เป็นหน้าผาขนาดใหญ่ตรงกลางเป็นเนินช่องเขาเหมือนประตู สามารถข้ามไปยังประเทศลาวได้ค่ะ

เดินขึ้นไปเรื่อยๆก็จะเจอกับ ศาลาทรงเก๋งจีน ซึ่งเป็นอนุสรณ์สถานของนายพลหลี่ แล้วก็จะผ่าน ป่าหินยูนนาน เราจะเห็นประติมากรรมธรรมชาติของหินในรูปทรงต่างๆคล้ายๆ ภูเขาในประเทศจีน ขึ้นสลับซับซ้อนสวยงามชวนมองทีเดียวค่ะ

อย่าลืมแวะไปชมทิวทัศน์ของประเทศลาวและสายน้ำของแม่น้ำโขงตรง จุดชมวิวช่องผาขาดนะค่ะ ฟังดูน่ากลัว แต่บรรยากาศสวยงามค่ะและพลาดไม่ได้แน่ๆ กับจุดชมทะเลหมอกเนิน102 จุดเกิดเหตุที่พระเอกวาดรูปนางเอกตรงนี้เลยค่ะ ให้บรรยากาศแอ๊บโรแมนติกมากมาย และจุดนี้สามารถมองเห็นทะเลหมอกได้รอบด้านเลยทีเดียวค่ะ

สุดท้ายกับจุดชมวิวทะเลหมอกแบบพาโนรามาสุดๆ คือจุดชมทะเลหมอกเนิน 103 เดินห่างกันไม่ไกลค่ะ

12.00 รับประทานอาหารกลางวัน ลิ้มรสอาหารจีนยูนนานสุดอร่อยที่ครัวบ้านดินผาตั้ง หรือเทียบเท่า

13.00 ได้เวลาต้องอำลาเพื่อเดินทางกลับกรุงเทพแล้วค่ะ

18.30 แวะรับประทานอาหารเย็นแถว ๆ จังหวัดแพร่ หรือ อุตรดิตถ์ หรือพิษณุโลก ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเวลาเป็นสำคัญ

02.00 โดยประมาณถึงกรุงเทพฯ โดยสวัดิภาพ

หมายเหตุ : โปรแกรมทริปอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงได้ โดยที่มิต้องแจ้งล่วงหน้า เนื่องจากสภาวะอากาศและปัจจัยอื่นๆ อีกมากที่อาจทำให้การเดินทางไม่เป็นไปตามแผน และควบคุมไม่ได้ แตทางเราจะยึดมั่นถึงความสุขและรอยยิ้มของท่านเป็นสำคัญ