15 ที่เที่ยว เดินป่าหน้าหนาว นอนดูดาวบนยอดดอยให้หายหนาวเหน็บ

เมื่อใกล้เข้าสู่ช่วงปลายฝนต้นหนาว เพื่อนนักเดินป่าหลายคนก็เริ่มที่จะหาข้อมูลเตรียมตัวไปเที่ยว เดินป่าหน้าหนาว กันแล้ว ด้วยเพราะการไป เดินป่าหน้าหนาว เป็นช่วงที่ท้องฟ้าปลอดโปร่งที่สุด ทำให้มีโอกาสเจอมวลหมู่ดาวกลางนภาได้ชัดเจนมากกว่าช่วงเดินป่าหน้าฝน และที่สำคัญกว่านั้นคือ เราไปแสวงหาความหนาว เพื่อให้หายหนาวเหน็บ

Keep your eyes on the sky , and your feet on the ground.

ขอขอบคุณ Quote จาก Pinterest , pin by Jenjira

การได้ไปนอนดูดาวบนยอดดอยกับใครสักคนท่ามกลางอากาศหนาวๆ เป็นช่วงเวลาที่ใครหลายคนต่างใฝ่ฝันถึง ต่อให้การไปยังจุดหมายต้องใช้แรงกายและแรงใจมากเท่าไหร่ก็ไม่หวั่น เพราะยิ่งเป้าหมายยากต่อการไปถึง การได้เห็นฟ้าที่เต็มไปด้วยแสงระยิบระยับบนท้องฟ้าก็เปรียบเสมือนถ้วยรางวัลขนาดมหึมาที่ทำให้หัวใจพองโต

15 ที่เที่ยว เดินป่าหน้าหนาว ที่เหมาะแก่การไปนอนดูดาว

1.ภูสอยดาว จ.อุตรดิตถ์

ภูสอยดาว ดินแดนแห่งป่าสนสองใบ ภูสอยดาวเป็นที่แรก ๆ ที่นักเดินป่าหน้าใหม่จะเข้ามาสัมผัส เพราะเป็นสถานที่เดินป่าที่เดินได้ไม่ยาก ด้วยระยะทางเดินเท้าเพียง 6.5 กิโลเมตร จากที่ทำการอุทยานแห่งชาติภูสอยดาว มายังจุดตั้งแค้มป์ลานสนสามใบ โดยเดินผ่านเนินทั้งหมด 5 เนิน ได้แก่ เนินส่งญาติ เนินปราบเซียน เนินป่าก่อ เนินเสือโคร่ง และเนินมรณะ

ช่วงเที่ยวป่าภูสอยดาวสามารถไปได้ทั้งช่วงฤดูฝน (ก.ค.- ต.ค) และช่วงฤดูหนาว โดยช่วงฤดูฝนนั้นจะเป็นช่วงที่เหล่าดอกหงอนนาคที่พากันแตกออกเมล็ดใต้ผืนดิน แล้วพากันเบ่งบานไปทั่วทั้งลานสนสอง กลายเป็นทุ่งทะเลดอกหงอนนาคที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย แต่เพราะเป็นหน้าฝน โอกาสที่จะได้เห็นดาว หรือทางช้างเผือกบนภูสอยดาวจึงเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยาก เนื่องจากท้องฟ้าจะเต็มไปด้วยก้อนเมฆฝนเสียเป็นส่วนใหญ่มากกว่า

แตกต่างกับภูสอยดาวช่วงหน้าหนาว ที่ท้องฟ้าจะปลอดโปร่งและได้เจอกับดวงดาวทุกครั้งที่ขึ้นไปกางเต็นท์ที่นี่ แต่ไปเดินป่าหน้าหนาว ที่ภูสอยดาว เราจะไม่ได้เห็นทุ่งดอกหงอนนาคแล้ว แต่จะเป็นการไปปีนพิชิตยอดสูงสุดของภูสอยดาวแทน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเส้นทางเดินป่าที่ท้าทายเท้านักเดินป่าเป็นอย่างยิ่ง ด้วยเส้นทางหลายๆจุดที่ต้องใช้สองมือตะกายกับก้อนหินแล้วพายกตัวเองขึ้นไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะถึงจุดหมาย

อ่านรายละเอียดโปรแกรมทัวร์เดินป่าพิชิตยอดสูงสุดภูสอยดาว>> https://tour.trekkingthai.com/product/พิชิตยอดภูสอยดาว/

2.ม่อนจอง จ.เชียงใหม่

ม่อนจอง ชมวิวหัวสิงห์ แดนม้าเทวดา ทุ่งหญ้าสีทอง ที่นี่มีวิวสวยงามโดดเด่น เป็นเส้นทางเดินป่าหน้าหนาว ในช่วงกลางเดือนธันวาคม – ต้นเดือนกุมภาพันธุ์ ดอกกุหลาบพันปลี สีแดงจะเริ่มเบ่งบานสะพรั่งไปทั่วทั้งหุบเขาตัดกับสีทองของทุ่งหญ้า

ในช่วงกลางคืน ดอยม่อนจองเหมาะกับการไปนั่งดูดาวมากที่สุดในสามโลก ด้วยลานสนามกอล์ฟช้างที่เปิดโล่งและอยู่ห่างไกลจากแสงไฟ จึงทำให้ที่นี่เป็นดอยที่ดูดาวได้หลายล้านดวง โดยเฉพาะอย่างยิ่งตรงบริเวณหัวสิงห์ ซึ่งเป็นจุดสูงสุดในผืนป่าอมก๋อย มีระดับความสูงที่ 1929 เมตร จากระดับน้ำทะเล ในช่วงเวลาราวตี3 – 4 จะเป็นช่วงเวลาที่เหล่าพรานดาวจะออกมาล่าช้างเผือกแห่งนภา แต่ขอกระซิบนิดนึงว่าหากจะออกมาล่าช้างเผือกในช่วงเวลาดังกล่าวขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่หรือลูกหาบให้พามาด้วย เพราะม่อนจองเป็นดินแดนที่มีน้องช้างอยู่ด้วยนะจ๊ะ

3.เบอบาตู จ.ตาก

เบอบาตู ดอยเล็ก ๆ แห่งบ้านแม่วะหลวง จ.ตาก เส้นทางเดินป่าหน้าหนาวแห่งนี้เริ่มมีชื่อเสียงมาในช่วง 2 -3ปีที่ผ่านมานี้

ยอดเขาเบอบาตู แห่งนี้มีความสูงจากระดับน้ำทะเลราว 1192 เมตรเท่านั้น ใช้เวลาในการเดินเท้าเพียง2- 4 กิโลเมตรเท่านั้น สภาพเส้นทางไม่ยากและไม่ง่ายจนเกินไป กำลังสนุก ระหว่างทางแวะน้ำตกเล็ก ๆ เป็นเส้นทางเดินป่าอีกหนึ่งเส้นที่แนะนำสำหรับคนที่อยากลองเข้าสู่วงการเดินป่าขึ้นยอดเบอบาตู จิบกาแฟดริฟ ดูทะเลหมอกสุดอลังการยามเช้า ยามค่ำคืนก็นอนอาบดาวให้เต็มอิ่ม

4.พุ่ยโค จ.แม่ฮ่องสอน

ดอยพุ่ยโค เป็น 1 ในเส้นทางเดินป่าหน้าหนาว สำหรับสายชิลล์ที่ขึ้นชื่อเรื่องทะเลหมอกเป็นอย่างมาก หรือจะเรียกได้ว่าเป็นทางเดินแห่งสวรรค์เลยก็ว่าได้ แต่อีก 1 อย่างที่หลายคนมักจะหลงลืมพูดถึงในรีวิว นั่นก็คือ ที่นี่เป็นดอยที่ดูดาวได้สวยอลังการมาก ด้วยลักษณะของสันเขาที่เปิดโล่ง แทบไม่มีต้นไม้ใหญ่บนยอดเขา ในยามค่ำคืนเราจึงสามารถนั่งเล่านิทานดาวได้อย่างช่ำอุรา

เส้นทางเดินป่าพุ่ยโค เป็นเส้นทางเดินป่าที่เรียกได้ว่า เดินง่ายมาก เพราะมีระยะการเดินเท้าเพียง 3-4 กิโลเมตรเท่านั้น และเส้นทางบางส่วนทางชาวบ้านได้ทำบันไดเพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้กับเหล่านักเดินทางสายธรรมชาติที่อยู่ในช่วงเริ่มต้น

5.ม่อนทูเล คลุยหลวง จ.ตาก

ม่อนทูเล คลุยหลวง เส้นทางเดินป่าแสงสีทองในตำนาน ตามชื่อเรียกในภาษาปาเกอะญอว่า “ทู เล โค๊ะ” ซึ่งมีความหมายว่า ภูเขาสีทอง ในช่วงยามเย็นที่อาทิตย์ใกล้อัสดงลับขอบฟ้า หรือช่วงเช้าที่แสงอาทิตย์เริ่มทอแสงโผล่พ้นขอบเขา เราจะเห็นภูเขาทั้งลูกกลายเป็นสีทองอันแสนอบอุ่น ที่หาแสงสวยระดับนี้ได้ยากมากจริง ๆ

เส้นทางเดินป่าหน้าหนาวเส้นนี้เป็นเส้นทางแห่งทะเลหมอก นับจากจุดตั้งแค้มป์ที่ “ม่อนทูเล” ไปยังจุดตั้งแค้มป์วันที่สอง “คลุยหลวง” จนถึงวันเดินทางกลับไปยังม่อนคลุย เราจะเจอทะเลหมอกหนานุ่ม มารอต้อนรับทุกเช้า ด้วยลักษณะทางภูมิศาสตร์ที่เป็นหุบเขา และมีแม่น้ำเมยไหลขนาบข้าง ทำให้โอกาสที่เราจะเจอทะเลหมอกสีขาวปุกปุยตลอดเส้นทาง ไม่ใช่เรื่องเกินจริงเลย

ในช่วงกลางคืนเราจะได้พบกับหมู่มวลดวงดาวดารดาษ ที่จุดตั้งแค้มป์ที่สองจุดในช่วงกลางคืน จุดตั้งแค้มป์ทั้งสองจุดเป็นลานโล่ง ไม่ค่อยมีต้นไม้ใหญ่ ทำให้เรามองเห็นดวงดาวได้ง่ายมาก กว้างมากและชัดเจนมาก หากมองดี ๆ เราอาจเจอทางช้างเผือกด้วยนะ

6.ดอยหลวงพะเยา ดอยหนอก จ.พะเยา

ดอยหลวงพะเยา – ดอยหนอก เป็นเส้นทางเดินป่าที่เป็นสันเขาวิวเปิดสวยตลอดเส้นทางเดิน เส้นทางสุดท้าทาย ที่เร่งเร้าเขย่าหัวใจให้เราทุกคนต้องแหงนหน้าเดินมองขึ้นท้องฟ้าตลอดเส้นทางชัน ชมวิวทะเลภูเขา 360 องศา ที่ดอยหนอก ภูเขาหินปูนที่มีความสูงจากระดับน้ำทะเล 1077 เมตร ที่ต้องใช้สองมือในการปีนขึ้นยังด้านบน

จุดเสียวสอง คือ การ ขึ้น-ลง ดอยหนอก หลายคนที่มุ่งหน้ามาเยือนผืนป่าแห่งนี้ ล้วนแต่ต้องวัดใจตัวเอง ปีนขึ้นเขาหินปูนที่มีความสูงจากระดับน้ำทะเล 1077 เมตร กว่าจะปาดเหงื่อปีนขึ้นไปว่ายากแล้ว รอบขาลงยากยิ่งกว่า ให้ตายเถอะ !!! จะสูงไปไหน

ยามค่ำคืนของคืนแรกนั่งมองดาวบนดิน ริมกว๊านพะเยา จากบ้านเรือนที่ส่องแสงระยิบระยับราวกับดาวดินนับร้อย ๆ ดวงและดาวบนฟ้าที่จุดตั้งแค้มป์ดอยหลวงพะเยา ส่วนคืนที่สองย้ายแค้มป์ไปมองดวงดาวพาดผ่านยอดดอยหนอก

7. ม่อนกองข้าว จ.แม่ฮ่องสอน

เส้นทางเดินป่าตามสันเขาของจังหวัดแม่ฮ่องสอน ที่มีเบื้องล่างเป็นสายน้ำแม่เงา ดังนั้นเส้นทางเดินป่าเส้นนี้จึงเป็นอีก 1 จุดที่มีชื่อเสียงในเรื่องการชมทะเลหมอกพอ ๆ กับเรื่องการไปดูดาวที่บนยอดดอย เพราะเป็นดอยที่มีพื้นที่เปิดโล่งกว้าง

เส้นทางเดินป่าหน้าหนาวเส้นนี้ยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จักในวงกว้างมากนัก แต่สำหรับในวงการนักเดินป่าที่ชอบบุกเบิกเส้นทางใหม่ ๆ จะคุ้นหูกับชื่อนี้เป็นอย่างดี ด้วยความสวยงามของเส้นทางและสภาพเส้นทางที่ยากพอให้ท้าทายแรงเข่า แต่เมื่อขึ้นไปถึงจุดตั้งแค้มป์ก็นับเกินคุ้มค่าเหงื่อ

8.ดอยมณฑา จ.ตาก

“ดอยมณฑา” อีกหนึ่งดอยสวยที่อยู่จังหวัดตาก เป็นเส้นทางเดินป่าที่มีระยะไกลพอสมควร ในช่วงแรก ๆ เราต้องเดินลุยน้ำเข้าไปเรื่อย ๆ ก่อนถึงทางแยกที่จะเดินขึ้นสันเขา จากนั้นก็ได้ช่วงเวลาของการท้าความดัน(สูง)กันละ ดอยแห่งนี้มีจุดวัดใจไต่สันเขา – คล้าย ๆ กับเขาช้างเผือก แต่ระยะความกว้างของสันเขากว้างกว่า แต่ความยาวนั้น ยาวกว่ามากกก และชันยาวด้วย ให้ความรู้สึกท้าทายพลังกายใจกำลังดี

หลังจากทานข้าวเย็นเสร็จ เป็นช่วงเวลาที่เหมาะแก่การนั่งล้อมวงดูดาวจากน่านฟ้าเมืองตากจากยอดดอยมณฑาเป็นที่สุด ด้วยด้านบนเป็นลานกว้างเปิดโล่ง 180 องศา เราจึงเห็นดาวได้ชัดเจนและเต็มท้องฟ้าไปหมด และในช่วงเวลาเช้า ๆ เราอาจจะเจอดงทะเลหมอกหนาๆ – ไม่เจอทุกครั้งนะ แต่พอมีบ้างในในช่วงกลางฝนต้นหนาว เป็นช่วงจังหวะที่ดีที่สุดที่จะมีโอกาสเห็นทะเลหมอกผืนหนาที่ปกคลุมทิวเขาที่ทอดตัวเป็นแนวยาวเชียวละ

9.สันหนอกวัว จ.กาญจนบุรี

“หลังคาดาว” แห่งเมืองกาญจน์ ที่มีเส้นทางเดินป่าเขียวชะอุ่มตลอดเส้นทางเดิน เส้นทางเดินป่าเส้นทางนี้อยู่ในอุทยานแห่งชาติเขาแหลม จังหวัดกาญจนบุรี ระยะเดินเท้าราว 8-10กิโลเมตร

การเดินเท้าขึ้นไปยังจุดตั้งแค้มป์ของ “สันหนอกวัว” ถือว่าไม่ยากมากนัก แต่เพื่อไม่ให้เพลียร่างจนเกินไป เราแนะนำว่าควรจะฟิตร่างกายให้พร้อมจะดีกว่า

ด้วยลักษณะพื้นที่ที่เป็นพื้นที่โล่งกว้าง ทำให้ในช่วงกลางคืน เราจึงเห็นดาวได้ชัดเจนและใกล้มือราวกับว่าจะเอื้อมมือไปแตะถึงเลยทีเดียว

10.ภูแว จ.น่าน

เดินขึ้นเมืองน่าน ไปชมวิวเปิดบนยอดเขาหินปูน 360 องศา ณ “ยอดภูแว” ตลอดระยะทางเดินเท้าราว 8 กิโลเมตรจะได้ทักทายกับต้นไม้และดอกไม้นานาชนิด ถึงเส้นทางเดินป่า “ภูแว” จะเป็นเส้นทางที่เดินไม่ยากเทียบเท่าระดับเขาช้างเผือก หรือม่อนจองก็ตาม แต่บางช่วงของเส้นทางมีความชัน ตลอดกับเราต้องเดินฝ่าแสงแดดตามสันเขาเกือบทั้งวัน จึงอาจทำให้ร่างกายเกิดความเหนื่อยล้าได้ ดังนั้นควรเตรียมความพร้อมของร่างกายมาให้ดีก่อนมาเดินจะดีมากเลยจ้ะ

• 

• 

ที่จุดตั้งแค้มป์ เนินเขาภูแวใหญ่ บนความสูง 1837 เมตร จากจุดพักนี้เราจะได้เห็นวิวสวย ๆ และยอดดอยที่เรียงรายถัดจากนี่ไปจะเป็น ยอดดอยภูแวน้อย ที่มีแต่ต้นหญ้าคาเขียวขจีปกคลุมไปทั้งเขา ที่มองดูอ่อนนุ่ม ละมุน ละไม … พร้อมนั่งเฝ้ารอชมพระอาทิตย์ตก ยามค่ำคืนดูดาวหมุนรอบตัวจากฟากฟ้า ท่ามกลางอากาศหนาว เนื่องจากเป็นดอยโล่ง มีลมพัดผ่านบ้างบางช่วง ดังนัั้นควรเตรียมเครื่องกันหนาวไปให้ดี อย่างน้อยก็เย็นเจี๊ยบแตกต่างจากกลางวันมาก

11.ปุยหลวง ห้วยฮี้ จ.แม่ฮ่องสอน

ยอดดอยปุยหลวง หรือในภาษากะเหรี่ยง เรียกว่า จ่อขัวะโข่ว หรือ ดอยฉิ่ง เพราะดูจากสายตามีรูปร่างคล้ายฉิ่ง เป็นหนึ่งในเทือกเขาถนนธงชัย มีความสูง 1,722 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง บนยอดดอยเป็นเนินเขาและทุ่งหญ้า บ้างก็ว่าคล้ายกับ ฝาชีคว่ำ ด้านบนยอดเป็นทุ่งโล่งลาดตามเนินเขาปกคลุมด้วยทุ่งหญ้า สามารถมองทิวทัศน์ได้โดยรอบ ยอดปุยหลวงเป็นจุดสูงสุดที่สามารถชมทิวทัศน์ทะเลภูเขาและทะเลหมอกได้อย่างสวยงาม มองเห็นพระอาทิตย์ขึ้น และตก ในยามค่ำคืนมีเหล่าดวงดาวพาดผ่านบนท้องฟ้า โดยมีฉากหลังเป็นพระธาตุดอยกองมู พระธาตุศักดิ์สิทธิ์แห่งเมืองแม่ฮ่องสอน

เส้นทางเดินป่าหน้าหนาวเส้นนี้ คนยังไม่ค่อยรู้จักมากนัก แต่เรื่องความสวยและความสนุกระหว่างเส้นทางการเดินนั้นถือได้ว่าคุ้มค่าแก่การเดินเท้าไปตามเส้นทางกล้วยไม้ ดอกไม้แปลกตา

12.ดอยมด จ.เชียงราย

เดินป่าเมืองเชียงรายท่ามกลางบรรยากาศป่าโบราณ เสียวสุดใจตามเส้นทางบาดใจ “สันคมดาบ” เส้นทางเดินเนินยาวราวกับสูงชันขึ้นไปบนฟ้า ต้องใช้ความระมัดระวังในการเดินเป็นอย่างมาก แถมด้านข้างทั้งสองด้าานก็เรียกได้ว่า ซ้ายก็เหว ขวาก็เหว แต่ปลอดภัยแน่นอนด้วยบันไดเหล็กที่ททางชาวบ้านมาทำไว้

เมื่อเราเดินมาถึงจุดตั้งแค้มป์บนดอยมด ซึ่งเป็นบริเวณลานค่อนข้างโล่งบนยอดเขา มีต้นไม้อยู่บ้างพอให้ได้เป็นที่กำบังแรงลม ในช่วงค่ำคืนหากท้องฟ้าเปิดเราจะเจอกับดวงดาวเต็มกระจายไปทั่วท้องฟ้าท่ามกลางอากาศหนาว

13.ดอยหลวงเชียงดาว จ.เชียงใหม่

ดอยหลวงเชียงดาว เส้นทางเดินป่าที่เต็มไปด้วยความหลากหลายของพืชพรรณสุดความมหัศจรรย์ ที่จะทำให้เหล่าผู้มาเยือนได้มหัศจรรย์ใจกับความหลากหลายทางชีวภาพ ดอยหลวงเชียงดาวเป็นป่ากึ่งอัลไพน์แห่งเดียวในประเทศไทย มีพืชเฉพาะถิ่นที่มีความหลากหลายสูง

ระหว่างทางเดินเราจะเห็นดอกไม้นานาชนิดที่ไม่เคยเห็นที่ป่าที่ไหนมาก่อน แต่จะมาพบที่นี่ที่เดียวเท่านั้น เช่น ชมพูเชียงดาว หรือนางเอกของที่นี่ คือ เทียนนกแก้ว เป็นกล้วยไม้ดิน ที่มีรูปร่างลักษณะคล้ายกับนกแก้วตัวเล็ก ๆ น่ารักน่าชัง

ในช่วงกลางคืน เราจะรู้สึกว่าเรากำลังกางเต็นท์อยู่เคียงดาว ชวนให้อยากลองเอามือเอื้อมไปที่ดวงดาวจากจุดตั้งแค้มป์ที่อ่างสลุง

ในช่วงเช้าเราเดินไปชมทะเลหมอกที่สวยงามราวกับอยู่บนสวรรค์กันที่กิ่วลม ก้อนเมฆสีขาวเรียงตัวกันแพหนา เคลื่อนไหวตามกระแสลมเบา ๆ คลอเคล้ายอดดอยสามพี่น้อง กระทบกับแสงสีทองวิบวับ เป็นวิวอันลือลั่นที่ต้องปรากฎบนกล้องของทุกคน

14.เขาพนมเบญจา จ.กระบี่

“เขาพนมเบญจา” ภูเขางามแห่งปลายด้ามขวานไทย เป็นยอดเขาสูงสุดแห่งเมืองกระบี่ หากมองดูไกล ๆ ภูเขาลูกนี้จะมีรูปร่างสัณฐานคล้ายกับผู้หญิงนอนหงาย เราต้องเดินเท้าเข้าไปยังป่าโบราณแห่งผืนป่าแห่งนี้ตลอดทางเราจะเห็นต้นไม้ใส่เสื้อ กล้วยไม้ป่าหลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นสิงโตใบพัดเหลือง เอื้องสายเสริดสั้น รองเท้านารีคางกบถิ่นใต้ ฯลฯ

จุดสูงสุดของ เขาพนมเบญจา คือยอดนมสาว พ้นยอดนมสาวไป คือเขาหน้าผาก Landmark ที่ต้องเดินไปให้ถึง กับจุดชมวิวอาทิตย์อัสดง 360องศา ลานดูดาว ซึ่งหากท้องฟ้าเปิด การตั้งแค้มป์นอนอาบดาวที่นี่จึงเป็นสิ่งที่ควรทำอย่างยิ่ง เพราะเราจะ
ได้เห็นดวงดาวพาดผ่านท้องฟ้าเหนือน่านทะเลอันดามัน และตื่นเช้ามาชมทะเลหมอกสุดอลังการในยามเช้า

15.ม่อนปุยหมอก จ.ตาก

ม่อนปุยหมอก ม่านทะเลหมอกที่กางกั้นระหว่างผืนแผ่นดินไทย – พม่า เส้นทางเดินป่าเส้นนี้เป็นเส้นทางที่นักเดินป่ามือใหม่ก็ไปได้ ใช้ระยะเวลาสั้น ๆ ในการเดินทาง เพียง 4 กิโลเมตรเท่านั้น สภาพเส้นทางไม่ยากและไม่ง่ายจนเกินไป

ในยามค่ำคืนบนม่อนปุยหมอกแห่งนี้ เราจะได้ชมเหล่ากลุ่มดาวที่จากน่านฟ้าไทยและพม่า ในช่วงอรุณรุ่งก็ได้เวลาที่ตะวันจะยอแสงลงบนทะเลหมอกสีน้ำนม เป็นภาพสวยงามจับใจที่ช่วยเติมพลังใจกับเหล่าผู้คนที่ออกเดินทางมาพักใจ

ผู้เขียน I am Mai Penguindoi

ท่านใดสนใจอยากไปคลายเครียดจากการทำงานด้วยการ “อาบป่า” เพิ่มพลังใจให้พองโต แบบไปเช้า – เย็นกลับ สามารถอ่านรายละเอียดทริปอาบป่ากับ TrekkingThai.com ได้ที่ลิ้งค์ด้านล่างนี้ได้เลยจ้า

สนใจไปเที่ยวเดินป่าเส้นทางอื่นๆ กับทีมงานมืออาชีพกับเรา คลิกที่นี่ >> https://tour.trekkingthai.com/shop/

ติดต่อสอบถามเรื่องทริปเดินทาง

จันทร์ – ศุกร์ ช่วงเวลา 10.00 – 19.00 น.

โทรจองได้ที่ 02-2780225/ 02-6197993 / 02-6171775

หรือ แชทกับเราได้ง่ายๆ และ ได้ข่าวดีๆก่อนใครไลน์ @trekkingthai กดแอดได้เลย

หรือ

สนใจสั่งซื้อสินค้าอุปกรณฺ์แค้มปิ้ง มีให้เลือกหลายแบบ คลิกที่นี่ >> https://shop.trekkingthai.com/ซื้อแล้ว หากสินค้ามีปัญหา ต้องการคำแนะนำต่าง ๆ กลับมาหาเรานะ …

ร้าน TKT Adventure Shop  
ร้านขายอุปกรณ์เดินป่า สินค้าเพื่อคนเดินทาง-ผจญภัย>> เดินทางสะดวก สอบถามได้ เรายินดีให้บริการ <<

“เรายินดีช่วยให้คำปรึกษา โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย พร้อมคำแนะนำ สาธิตวิธีการต่าง ๆ อย่างถูกต้องเหมาะสม ในครั้งต่อๆ ไป จะสามารถทำได้เอง ไม่ต้องเสียเวลามาที่ร้าน จ้า”

“ด้วยความเป็นเพื่อน บริการด้วยใจ เรายินดีให้คำปรึกษาทั้งในการใช้งาน และปัญหาต่าง ๆ”

*** สอบถามได้ ไม่ซื้อไม่ว่า !!! โทรมาคุยกัน นะจ้ะ ^^
จ-ศ. 10.00-19.00 น.
ทาง Inbox ( https://bit.ly/2FUJL11 ) หรือ
Line@ ID : @tktadventure ( https://bit.ly/2HKtGvv )
Instagram : trekkingthaishop ( https://bit.ly/2If1AbF )

Tel. 02-6172731 / 087-0893450 
จันทร์ – ศุกร์ 10.00-19.00 น.
เสาร์ 11.00 – 18.00 น.
(รับสายเฉพาะในเวลาทำการ)
****************************************************

ตั้งอยู่ชั้น 3 (อาคารเดียวกับ 7-11 Eleven)
การเดินทาง : สถานีรถไฟฟ้า (BTS) สนามเป้า ทางออกที่ 3
พิกัด GPS : 13.7735151,100.5421885
รูปภาพแสดงแผนที่ : https://goo.gl/xh9RP7

ที่อยู่ของเรา อยู่กลาง กทม. สามารถแวะมาเลือกดูสินค้าได้ แต่… ก่อนมาแนะนำให้โทรมาถามว่ามีสินค้าในสต๊อคหรือไม่ก่อน นะจ้ะ เพื่อจะได้มาแล้วได้ของเร็วขึ้นมาก หรือถ้าไม่มีสินค้าตามต้องการจะได้ไม่เสียเวลามา จ้า